วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สร้างเรือง....ในคืนที่นอนไม่หลับ (slow life เรามาสโลว์ชีวิตกันเพื่อหาความสุขที่ถาวร}

สวัสดีคร้า่ เพือนๆ ชาว blog  ให้มันได้ยังงีซิคะ หลังจากที่ตอนเย็น แอดมินตั้งใจว่าจะรีบเคลียร์งาน แล้วกลับไปนอนดูหนัง ชิวๆ ที่ห้อง ตั้งใจไว้อย่างดีว่าวันใหนจะเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ หลังจากที่ปั่นงานกันมาเป็นเวลา สามอาทิตย์เต็มๆ และเหมือนบรรยากาศจะเป็นใจ เข้าข้างแอดมิน ฝนตกพร่ำๆ  โอ้ยแค่คิดก็ฟินเนอะ

และแล้ว ทุกอย่างผิดคาดไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้  เห้อจบกัน คืนที่บรรยากาศเป็นใจ เพราะหลังจากที่แอดมิน ดุซีรีย์จบไปแล้ว 1 เรือง เอ้ย ตาสว่างอยู่เลยอะ ทำไงที่นี้ จะลุกขึ้นมาทำงานก็กระไรอยู่ เสียดายบรรยากาศอะ อะลองดูอีกสักเรือง 1 ชัวโมงผ่านไป หนังก็จบไปอีก 1 เรือง   เอ้ย ตาสว่างอยู่อีก เห้อทำไงอะที่นี้ บรรยากาศของฉัน พลิกซ้ายพลิกขวา โอเค ยังไงก็จะไม่หลับใช่ไม่ ที่นี้ก็คิดซิคะ ทำอะไรต่อดี ใหนๆ ก็นอนไม่หลับแล้ว มาสร้างเรืองกันดีกว่า  คืนนี้ของดโพสต์รีวิวนะคะ  เรามาพูดถึง คำยอดฮิต ที่ยังไม่ตกกระแสทั้งในโลกออนไลน์และโลกความจริงกัน ดีกว่าบทความที่แล้ว แอดมิน ได้เขียนถึง กระแสของงาน "ฟรีแลนซ์ " ซึ่งกำลังบูมอยู่ในขณะนี้ วันนี้เรามาพูดถึง เทรนด์การใช้ชีวิตแนวใหม่ที่กำลังมาแรงคือ ."Slow Life" กันต่อเนอะ



คำว่า "Slow Life " บางคนเข้าใจว่าการใช้ชีวิตแบบ Slow Life คือการใช้ชีวิตตามเทรนด์  จิบกาแฟแพงๆ กินร้านหรูๆ ใช้แต่ของแบรนด์ และ นำมาลงในเฟสบุค แถมด้วยแคปชั่นแนวๆ ซึ่งเป็นการเข้าใจความหมายของ Slow Life ผิดไปคะ

และผู้บุกเบิกการใช้ชีวิตแนวนี้ ก็คือ ลีโอ บาบัวต้า บล็อกเกอร์ และนักเขียนชื่อดัง เจ้าของเว็บบล็อก Zen Habits ที่ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 240,000 คน ได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บบล็อกยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกประจำปี 2010 โดยนิตยสารไทม์ เขายังมีผลงานหนังสือหลายเล่มด้วยกัน แต่เล่มที่โด่งดัง
ติดอันดับเบสท์เซลเลอร์  ก็คือ  The Power of  Less การใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ  เพื่อชีวิตที่มีสุขนั้น  สามารถเริ่มต้น ง่ายๆ  ด้วยบันได  9  ขั้น  ดังนี้

บันไดขั้นที่ 1 คือ ต้องรู้จักโฟกัสมากขึ้น และทำอะไรให้น้อยลง แทนที่จะทำอะไรหลายอย่างในเวลาพร้อมๆกัน ให้เลือกทำสิ่งสำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว และเก็บเรื่องอื่นๆไว้ก่อน 

บันไดขั้นที่ 2 คือ  ต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน มีสติกับปัจจุบัน มีความสุขกับง่ายๆ เช่น อย่ายึดติดของแบรนด์ อย่า ตามกระแสจนเกินไป


บันไดขั้นที่ 3 คือ ใช้ชีวิตแบบโลว์เทค ปิดมือถือและอุปกรณ์ไฮเทคทุกอย่างในช่วงวันหยุด  อย่าวุ่นอยู่กับกับการเล่นอินสตาแกรม โพสต์เฟสบุค และเช็กอีเมล์ทั้งวัน 


บันไดขั้นที่ 4  คือ ใส่ใจคนรอบข้างบ้าง พร้อมทั้งรับฟัง เปิดใจ ใส่ใจเพื่อนฝูง, ครอบครัว และคนรอบข้างให้

บันไดขั้นที่ 5  คือ เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ หันมาชื่นชมกับความงดงามของธรรมชาติบ้าง ออกมาเดินเล่นในสวน สูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง  หรือทำกิจกรรมบ้าง แทนที่จะคลุกอยู่แต่ในห้อง นอนตากแอร์ทั้งวัน ลองออกมาเดินเล่นในสวนเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ 

บันไดขั้นที่ 6 คือ  การรับประทานอาหารให้ช้าลง โดยค่อยๆเคี้ยวเพื่อรับรู้รสสัมผัสความอร่อยของอาหาร แทนที่จะทานเร็วๆเพื่อให้อิ่ม เพื่อที่จะรีบไปทำงานต่อ 

บันไดขั้นที่ 7 คือ  ขับรถให้ช้าลง นอกจากจะทำให้ไม่เครียดเวลาขับรถแล้ว ยังลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย

บันไดขั้นที่ 8 คือ   มีความสุขง่ายๆและรื่นรมย์กับทุกอย่างที่พบเจอ เปลียนมุมมองชีวิต ที่พัฒนาไปไกลขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ขอให้ทำด้วยความสุขและความเต็มใจ 

 บันไดขั้นที่ 9 คือ  ขจัดความเครียดด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย 




เป็นอย่างไรบ้างคร้า ชีวิตแนวใหม่กำลังมาแรง ... Slow Life  เป็นการใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ และยึดหลักพอเพียง ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายเลยเนอะ  แต่ไม่ง่ายเลยคะสำหรับโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ซึ่งเราจะคุ้นกับคำว่าโอกาศเป็นของคนที่เร็วเสมอ เราจึงจำเป็นต้องรีบเพือแข่งขัน เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ  เหนือยกันไม่คะ เรามาลองใช้ชีวิตแบบ Slow life กันเนอะ เพื่อความสุขที่ถาวร 


เอ้ย แอดมินเริ่มง่วงแล้วอะคะ ถ้างั้น คืนนี้ ขอแค่นี้ก่อนเนอะ รีบนอนดีกว่า เดียวบรรยากาศดีๆ จะผ่านไปซะก่อน เสียดายแย่ ไม่ทันได้ฟินเลย  เดียวจะเเช้าซะก่อน อิอิ



..........................................................................ราตรีสวัสคร้า...........................................................



อ้างอิงโดย มิสแซฟไฟร์  ใน นสพ. ไทยรัฐ  20  เม.ย.56


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น