เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง? ไม่มีแผน ไม่มีเป้าหมาย ณ. ตอนนั้น ใจมันพาไป คริ คริ............
เนื่องจากว่า ไม่ใช่วันหยุด ไม่ใช่ช่วงเทศกาล แต่เป็นวันที่ แอดมิน กับคุณเพือน มีธุระ ซึ่งต้องกลับบ้านแบบกระทันหัน หลังจากที่ทำธุระเรียบร้อย และได้เสร็จก่อนเวลาที่เรากำหนด ทำให้เรามีเวลาอีกหนึ่งวัน ก่อนที่จะกลับมาลุยงาน ต่อ และแน่นอน เราไม่ปล่อยให้เวลา 1 วันผ่านไป โดยที่ไม่มีอะไร มารีวิวลง Blogger แน่ ซึ่งสถานที่ที่เป็นเป้าหมายของเราครั้งนี้ก็คือ ที่นี้เลยคร้า อ.เบตง สถานที่ขึ้นชื่อว่า ใต้สุดแดนสยาม ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา ประมาณ 100 กิโล กว่าๆ จะช้าอยู่ใย กล้องพร้อม ใจพร้อม คนพร้อม ลุย.................... (ตอนแรกแอบหวั่นใจ เนื่องจากรถคู่ใจของ แอดมินเป็นอีโคคาร์ จะขึ้นเขาไหวไม่ลูก)
สักหน่อยก่อนหล้อหมุน......(11:50 ออกจากตัวเมืองยะลา)
เรามากันได้ครึ่งทางแระ (สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา บาลา ยะลา - เบตง) วิ่งรถมาตลอดทางไม่มีการแวะจอด เนื่องจาก เรามีเวลาที่จำกัด แต่โปรแกรมเราเยอะ เอ๊ะ ยังไง? ใหนบอกว่าไปแบบไม่มีแผน แล้วโปรแกรม มาจากใหน โปรแกรมพึ่งมาตอนที่เราตกลงกันว่า คืนนี้เราจะพักกันที่เบตง อิอิ
เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าฝน ระหว่างทาง มีฝนตกปรอยๆ เป็นบางจุด เพื่อความปลอดภัย เราขับแบบชิวๆๆ ถึงในตัวเมือง เบตง เวลา 14:30
อย่างแรกที่เราต้องหา หลังจากที่ถึง ตัวเมืองเบตง คือ ที่พักจร้า เนืองจากเราไม่ได้มีการว่างแผนล่วงหน้า จึงไม่มีการเตรียมตัว หาข้อมูลอะไรเลย ในระหว่างที่คุณเพือนสาว กำลังขับรถ แอดมิน ใช้ เทคโนยีคู่กาย เสิร์ชหาข้อมูล ที่พัก และเราได้ที่พัก กลางใจเมือง ราคาแอบแพง นิสหนึ่ง เนืองจากเราไม่ได้มีการจองล่วงหน้า เหลือห้องเดียวพอดี เช็คอินเรียบร้อย เอาของไปเก็บ อาบน้ำ เตรียมตัว จะออกไปชมบรรยากาศ รอบเมืองเบตง แต่ ต้องผิดหวังจร้า พี่ฝน จากที่ตกปรอยๆๆ หลังจากที่ แอดมินกับเพือนถึง โรงแรมที่พัก แล้ว ตกหนักเลย เก็บแผน ทุกอย่างวันนี้ เข้ากระเป๋า สั่งข้าวของโรงแรม ขึ้นไปกินที่ห้อง พักผ่อน จร้า เก็บแรง ไว้ลุย พรุงนี้ยาวๆๆๆ เพราะ เราต้องขับรถตีกลับเกาะสมุย ทันที พรุงนี้ ตอนเย็น
ณ.เวลา 08:00 ของเช้าอีกวันตืนสายคร้า อดดู หมอกเลย เค้าว่ากันว่าหมอกตอนเช้าของเมืองเบตงสวยมาก (พลาดแล้วคะ แอดมินพลาดอย่างแรง) หลังจากที่ได้สั่ง อาหารเช้า ของโรงแรม กินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เก็บของ เก็บสัมภาระ ทุกอย่าง เช็คเอาท์ แล้วลุยต่อเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาคะ
ภาระกิจแรกของเราเช้าวันนี้ที่เบตง คือ ตามหาไก่คะ
เจอแล้ว หลังจากที่เวียนหา อยู่สองรอบ
ใกล้ๆ ไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเบตง แล้วจะเป็น อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเบตง
บรรยากาศภายในอุโมงค์
ออกจากอุโมงเสร็จแล้ว ภาระกิจต่อไป คือ หาตู้ไปรษณีย์ ยักษ์
ขับรถมาได้สักพัก ก็เจอคะ หาไม่ยากคะ
ด้านหลังตู้ไปรษณีย์จะเขียนประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับตู้ไปรษณีย์ คะ
หลังจากที่เราได้ไปแวะชม ไก่กับตู้ไปรษณีย์ เวลาก็ผ่านไปเร็วเหลือเกิน จร้า จะ สิบแอดโมงแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง คะ ภาระกิจถัดมา ไม่ต้องเดาเลยใช่ไม่คะ 5555 หาของอร่อยๆๆ จร้า ถ้ามาถึงเมืองเบตงแล้ว ไม่ได้กิน หมี่เบตง กับไก่เบตง นี้ คือเหมือนมาไม่ถึงเบตงนะคะ พูดเลย หลังจากที่ได้ชาร์ต ไขมัน เอ้ย พลังงานกันแล้ว ลุยต่อ เลยคะ วันนี้ โชดดี อากาศ สดใสตั้งแต่เช้า ฝนไม่ตกคะ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เป้าหมายต่อไป เป็นไฮไลท์ ของ ทริปนี้เลยคร้า
ภาระกิจต่อไป สวนดอกไม้เมืองหนาว สวนหมื่นผุบฝา
เส้นทางที่ขึ้นไป บนเขา โหดมากคะ โค้งเยอะมาก ตลอดทาง มีทั้ง คดเคี้ยว โค้งหักศอก ถนนค่อนข้างแคบ คะ และที่สำคัญ สูงมากคะ ต้องใช้ความระมัดระวัง ในการขับรถเป็นพิเศษคะ
ก่อนที่จะถึงสวนดอกไม้ จะถึงบ่อน้ำพุร้อนก่อนคะ
ออกจาก บ่อน้ำพุร้อน แล้วขับรถ ขึ้นไปอีกนิสหนึ่ง จะเจอกับ อุโมงค์ปิยะมิตร
ข้างบนจะมี ร้านค้า สำหรับขายของที่ระลึก และน้ำดึม สำหรับ นักท่องเทียวด้วยจร้า
พักแปรบ แดดร้อนมาก หายเหนือยแล้ว ลุยต่อเลยจร้า ประตูเข้า ชม ถ้ำ ผู้ใหญ 20 บาทคร้า
บรรยากาศระหว่างทางคะ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ใน หุบเขาที่ใหนสักทีคะ มีเสียงน้ำตก เบาๆๆ ด้วย ฟินเวอร์ (ตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ บอกว่าต้องขึ้นบรรได้ สองร้อยกว่าขั้น กว่าจะถึงถ้ำ เกือบถอดใจคะ )
เดินได้สักพัก บรรยากาศ รอบๆๆ ลืมเหนือย เลยคร้า โอ้ จอค์ คือ มันยอดมาก คร้า ธรรมชาติสุดๆๆ และแล้ว เราก็มาถึงคะ เป้าหมายคะ อุโมงค์ใต้ดิน อุโมงค์ใต้ดินที่พรรคคอมมิวนิสต์มลายา ใช้เป็นที่ซ่อนกำลังและทำสงครามจรยุทธ์กับทางรัฐบาลในสมัยนั้น และ ด้วยที่ ข้างในถ้ำมืดมาก และ แอดมิน ไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้า จึงไม่สามารถถ่ายรูปข้างในได้คะ
นอกจากอุโมงค์แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสิ่งของเครื่องใช้ในสมัยก่อนด้วย...
ออกจากหมู่บ้านปิยะมิตรขับรถขึ้นเขาสูงขึ้นไปอีก สู่ "สวนหมื่นบุปผา" หรือสวนดอกไม้เมืองหนาวนั่นเอง ด้วยระดับความสูงจากน้ำทะเลเกือบพันเมตร ทำให้สภาพอากาศเย็นพอที่จะให้ดอกไม้เหล่านี้ได้มีโอกาสออกดอกออกผลให้เราได้เชยชมครับ อีกทั้งยังเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้อีกด้วย
น้องมีนา อีโคคาร์น้อย และแล้วเจ้าก็มาถึงจุดนี้
เนื่องจาก เดือนที่เรามากันไม่ใช่ช่วง ที่ดอกไม้ออกดอก ทำให้ สามารถชมได้แต่ดอกไม้ หน้าร้อน เท่านั้น
สำหรับ ใครที่ต้องการจะไปพักข้างบน เลย ก็ มีให้พักด้วยจร้า แต่ ทางเจ้าหน้าทีเค้าจะมีกฏห้าม ลงจาก เขาหลังจาก สีทุ่ม เพือความปลอดภัย คะ ที่พักก็มีตั้งแต่ราคา 700 บาท ขึ้นไป คะ
และแล้ว งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา หมดเวลาสนุกแล้วซิ...........
14:00 ขับรถ ลงจากจากสวนดอกไม้ จุดหมายต่อไป คือ เกาะสมุย จร้า ! เห้อ ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นต่อไป กลับไป ทำงานต่อจร้า วันนี้ขอแค่นี้ก่อน เน้อ ผิดพลาดยังไง ติชมกันได้นะคร้า มือใหม่หัดรีวิวคะ
รีวิว By.... yucrack
